วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

นิทานพื้นบ้าน

เขียนโดย ประวัติของฉัน ที่ 02:15


นิทานพื้นบ้าน – พื้นเมืองเวียงจันทร์


อดีตกาลนานมา   เวียงจันทน์กับไทยเป็นศัตรูกัน   ไทยยกทัพไปตีเวียงจันทน์หลายครั้ง แต่ก็ไม่ชนะสักทีทั้งที่มี
กำลังมากกว่า   เพราะเวียงจันทน์มีพระยานาคมาช่วยเหลือ   คือเมื่อเจ้าเมืองตีกลองขึ้น

พระยานาคก็จะโผล่ขึ้นมาจากน้ำพ่นพิษใส่ทหารไทยตายหมด
กษัตริย์ไทยทราบเรื่องจึงวางแผนให้เชียงเมี่ยง   ที่เป็นคนฉลาดหลักแหลม

ปลอมเป็นหมอมอ(หมอโหร)   เข้าไปในเวียงจันทน์   เมื่อได้โอกาสเข้าพบเจ้าอนุ
เจ้าเมืองเวียงจันทน์   หมอมอทำนายว่าเจ้าอนุวงศ์จะได้รับมรดกที่เป็นเงินฝังไว้ที่ครกมอง
เมื่อเจ้าอนุให้คนไปขุดดูก็ได้พบจริงๆ   จึงทำให้เกิดความศรัทธาเชื่อถือในหมอมอคนนี้มาก
ส่วนสาเหตุที่พบนั้น   เนื่องจากเชียงเมี่ยงให้คนเอาไปฝังไว้ก่อนแล้ว

ต่อมาเชียงเมี่ยงให้คนทำว่าวติดธนู   แล้วปล่อยขึ้นสูงมากจนมองไม่เห็น   ได้ยินแต่เสียงธนู

เจ้าอนุแปลกใจมากหาสาเหตุไม่ได้จึงให้เรียกหมอมอมาทำนายดู   หมอมอปลอม(เชียงเมี่ยง)
ก็ทำนายว่าจะมีเรื่องเดือดร้อนแก่บ้านเมือง   เพราะเสียงนั้นคือภูตผีปีศาจที่ร้องโหยหวนจะลงมากินผู้คน
พระราชา อนุ ถามว่าจะมีวิธีแก้อย่างไร   หมอมอปลอมบอกว่าจะต้องไปตัดลิ้นกลองใบนั้น
และให้อุดรูพระยานาคเสีย   เสียงนั้นก็จะหายไปและภูติผีปีศาจจะไม่ลงมากินผู้คน
เจ้าอนุหลงกลจึงให้คนทำตาม

ฝ่ายเชียงเมี่ยงก็ให้คนไปตัดสายว่าว   เสียงนั้นก็หายไป   จากนั้นเชียงเมี่ยงก็ให้สัญญาณ

ให้กองทัพของไทยเข้าตีเวียงจันทน์   เจ้าอนุให้คนไปตีกลองเพื่อให้พระยานาคมาช่วย   แต่กลองก็ตีไม่ดัง
เพราะสิ้นลิ้นไปแล้ว   ประกอบกับพระยานาคก็ถูกอุดรู   พระยานาคจึงไม่ได้ขึ้นมาช่วยทำให้เวียงจันทน์ต้องแพ้แก่ไทย
เจ้าอนุนั้นถูกฆ่าตาย   แล้วเวียงจันทน์ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของไทย

audru.jpg (7087 bytes)

นิทานพื้นบ้าน – เที่ยงยังไม่บ่อย


มีชายคนหนึ่งพร้อมกับเพื่อน ไปนั่งรอรถไฟที่สถานี รถจะมาถึงเวลาบ่ายโมง
ชายคนนั้นก็บอกให้เพื่อนไปดูนาฬิกาที่ตั้งอยู่ในบริเวณสถานีว่า บ่ายโมงแล้วหรือยัง
เพื่อนก็วิ่งไปดู แล้วก็กลับมาบอกว่า “เที่ยง…ยังไม่บ่าย” ทั้งสองก็นั่งรอรถกันต่อไป
นั่งรอกันอยู่พักใหญ่ ก็บอกให้เพื่อนวิ่งไปดูนาฬิกาอีกที ว่าบ่ายโมงหรือยัง
เพื่อนก็วิ่งไปดูอีก แล้วก็กลับมาบอกว่า “เที่ยง…ยังไม่บ่าย”
ก็นั่งรอรถกันอีก จนกระทั่งตะวันคล้อยไปแล้ว ก็บอกให้เพื่อนวิ่งไปดูนาฬิกาอีกสักที
เพื่อนก็วิ่งไปดู แล้วก็กลับมาบอกว่า “เที่ยง…ยังไม่บ่าย” เหมือนเดิม
ชายคนนั้นก็เกิดความสงสัย จึงพูดกับเพื่อนว่า “ไหน นาฬิกาที่เอ็งวิ่งไปดูมันอยู่ตรงไหน”
เพื่อนก็พาไปดูพร้อมกับชี้บอกว่า “นี่ไงล่ะ”
ชายคนนั้นหัวเราะไม่ออกจึงพูดออกมาว่า
“โธ่เอ๋ย! นั่นมันเครื่องชั่งน้ำหนักต่างหาก ไม่ใช่นาฬิกา เอ็งเข้าใจผิดไปแล้ว

แหล่งอ้างอิง http://xn--o3cdbaaf0a2nen1byqc.whitemedia.org/

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

About me and stuff Copyright © 2010 Designed by Ipietoon Blogger Template Sponsored by Emocutez